เนื่องจากเขียนบล็อกน้อยมากในแต่ละปี ดังนั้นการได้เขียนสรุปเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมาก็ทำให้ได้ทบทวนตัวเองดีเหมือนกัน
ปี 2555 นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มากกับชีวิต ได้ทำงานในโครงการที่ใหญ่ขึ้น ดูแลทีมขนาดใหญ่ขึ้น ต้องบินลงกรุงเทพฯ บ่อยกว่าที่คิดมาก มีความรับผิดชอบที่ไม่อาจปฏิเสธอยู่หลายเรื่อง ทำให้กระทบกับเวลาที่ให้ครอบครัวและการพัฒนาตัวเอง
รู้สึกเลยว่าหลุดไปไกลมากจากที่วางแผนชีวิตไว้ในวิถีแห่งเจ้าสำนัก และที่เขียนแนวทางของบริษัทขนาดเล็กไว้ที่หนังสือ Rework, คัมภีร์ของบริษัทสมัยใหม่ เลยทำให้กระทบกับวิถีชีวิต, ความฝัน และความรัก ดังที่ปรากฏในบันทึกบทเพลงที่เศร้าที่สุดในโลก, รักแท้ และการขอขมา
เข้าใจถึงข้อจำกัดของความสามารถของตัวเอง ยอมรับว่าสิ่งไหนคือความฝัน และสิ่งไหนคือความเพ้อฝัน ปีนี้เลยวางแผนลงกรุงเทพฯ ให้น้อยหน่อย (เหลือเดือนละครั้งตามตารางนัดหมาย ) และหาโมเดลที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น ลดการบริหารงานในสามย่าน ลง และไปโฟกัสที่การ R&D, ฝึกอบรมทีม และผลิตงานแทน, ส่วนงานในไทเกอร์ ไอเดีย ก็ลดเวลาทำงาน ลดเงินเดือนลง, งานไวไวซอฟท์ มีเพิ่มงานด้าน WordPress Theme อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ลดงานรับจ้างผลิตและประสานงาน เพื่อโฟกัสที่งานสร้างสรรค์, สร้าง Digital Asset, เพื่อจะได้อยู่ปายจริงๆ เสียที
ปีนี้คงเป็นปีที่ใช้ชีวิตไปทีละวัน เติบโตไปทีละวัน รู้สึกว่ามั่นคงและมั่นใจยิ่งนัก
ข้อคิดในปี 2555
- รักแท้ก็คือรักธรรมดาๆ นี่แหละ แค่ดูแลกันให้ดีเท่านั้นเอง, ดูแลความรักดี ความรักก็ข้ามภพข้ามชาติได้ ดูแลไม่ได้ ที่ทำบุญร่วมกันไว้ มันก็หมดโมเมนตัมไป
- จะประสบความสำเร็จได้ ควรทำสิ่งที่ รัก, เก่ง และทำกำไร
- งานแพงกับงานถูก บางทีผลงานอาจจะเหมือนกัน สิ่งที่ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายคือ “ความมั่นใจว่ามันจะจบ” ซึ่งเอเจนซี่/สตูดิโอ/ฟรีแลนซ์ ต่างก็ต้องหาวิธีของตัวเองไป
- ทำให้พบว่า ทักษะที่ในเมืองไทยขาดมากๆ เลย คือ Project Management (การบริหารโครงการ), ผมเองคิดว่าหาคนเก่งด้านนี้ยากกว่า Designer (นักออกแบบ) หรือ Developer (นักพัฒนา/โปรแกรมเมอร์) เสียอีก
- สิ่งสำคัญของ Project Management ที่ผมคิดว่าสำคัญกว่าการ manage resource (จัดการทรัพยากร คน/เงิน/เวลา) อีก คือการ manage expectation (การจัดการความคาดหวัง พูดง่ายๆ คือ เคลียร์กันให้ชัด ว่าใครจะได้อะไรจากใครบ้าง แค่ไหน)
- ตามหลักการของพาเรโต ลูกค้า 20% จะสร้างความวุ่ยวาย 80% ถ้าหาเจอแล้วไม่รีบแก้ไข ความวุ่นวายก็จะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
- วาทะ @wirojla “eBook อาจดูน่าสนใจกว่า Printed Book แต่เมื่อเทียบกับสื่อ online และ digital content อื่นๆ แล้วสู้ไม่ได้”
- เลยคิดต่อว่า ถ้ามี digital content ในมือที่มั่นใจว่าดีมากๆ ไม่ควรทำเป็นรายการทีวี/Blog/iPad Magazine/eBook/หนังสือ แต่ทำเป็น Premium Content สำหรับสมาชิก หรือคอร์สออนไลน์ดีกว่า
- เมื่อไม่อยากยุ่งกับองค์กรขนาดใหญ่ (เพราะ 99% นั้นเอาแต่ได้) ก็ต้องตัดใจว่า เราไม่ควรสร้าง Product ที่ต้องดีลกับองค์กรขนาดใหญ่
- เมื่อไม่อยากยุ่งกับการ Support งานจิปาถะ ก็ต้องตัดใจว่าเราไม่ควรสร้าง Product ที่ต้องขายพร้อมทีม Support (เช่น เว็บสำเร็จรูปสำหรับคนทั่วไป, แอพสำเร็จรูปสำหรับคนทั่วไป, การทำ Payment Gateway, การสร้างตลาดขายธีมในไทย, การสร้าง Solution ที่ต้องมีบริการหลังการขาย ฯลฯ)
- หนังสือ Work for Money, Design for Love กล่าวว่า ทำงานมา 10 ปี ไม่เคยเห็นใครที่ รับจ้างทำ Project เพื่อหาเวลามาผลิต Product ที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วทำได้ดี ได้เลย คนเราจะทำอะไรได้ดีต้องโฟกัส
- เลยได้คำตอบของปีนี้จนได้ว่าชีวิตควรจะโฟกัสอะไรและเดินไปทางไหนต่อ พอเข้าใจตัวเองแล้วก็มีความสุข 🙂
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ
ความคิดเห็น