คำรำพันของลุงขี้เมา

3 กุมภาพันธ์ 2002 00:28 น. บันทึก ,

ยื้อแย่งตัวอักษร มาจากอากาศว่างเปล่า
เขียนเล่าเรื่องราว แห่งความคิดฝัน
โลกคงหมุนเร็วขึ้น เร็วขึ้นทุกวัน
จะมีบางเวลาไหม ? ที่หยุดมัน … และบันทึก

เพื่อนหลายคนคงเป็นห่วงว่า โลกของไอ้เม่น มันอาจจะหยุดหมุนชั่วคราว เมื่อไม่มีงานที่ต้องตามไล่กวดเหมือนก่อน จึงได้นัดแนะกันอวยชัยให้พร ในโอกาสที่โลกได้หมุนตามปฏิทินฝรั่งมาถึงวันที่ 2 เดือน 2 ปี 2002

และนั่นก็ทำให้กระผมได้นอน 6 โมงเช้า อีกครั้ง กับการร่ำสุราแบบวัยหนุ่มเนเวอร์ดาย
การร่ำสุราในนัยะของ… การค้นหาความหมายของชีวิต … ที่ตื่นขึ้นมาพักมันไว้ก่อน เพื่อรีบวิ่งไปตามโลก …

การกินเหล้าในสมัยเรียนของพวกเรานั้น มักจะเป็นการคุยเพื่อหาคำตอบอะไรของชีวิตอยู่บ่อยครั้ง คำถามประเภทเมตาฟิสิกส์ หรือ อจินไตย – คือพวกคำถามโลกแตก ก็ยกขึ้นมาหารือกันไม่น้อย

ชีวิต คืออะไร , จุดหมายของชีวิตคืออะไร , โลก ความรู้ ชาติ ภพ มนุษย์ต่างดาว ฯลฯ , ความเหลื่อมล้ำของสังคม , ความเหี้ยของเอ็นจิเนียร์ และ เด็กจุฬาฯ
ฯลฯ

จนวันนี้ เมื่อใครหลายคนได้ทำงานถึงจุดหนึ่ง ก็พบว่าชีวิตการทำงานที่สนุกสนานนั้น ชักมาถึงทางที่ต้องเปลี่ยนแปลง

ไปเรียนต่อ, ย้ายงาน, ลงทุนทำกิจการเอง ฯลฯ ซึ่งก็ทำให้กลับมาสงสัยถึงวิถีชีวิต – ที่สังคมได้มอบบทบาทให้ – อีกครั้ง

“มิตรภาพ และ ความคาดหวังของสังคม บางทีมันก็มาด้วยกัน”

“มันยากที่มึงจะพอใจกับงานโรงงาน เงินเดือนหมื่นสองหมื่น และเมื่อถึงอายุสามสิบ มึงจะมีเงินเดือนสามหมื่น ในขณะที่เพื่อนหลายคนไปเรียนเมืองนอก บางคนทำงานได้เงินเดือนละสองแสน..”

“และใครที่พามึงมาในความคาดหวังเหล่านี้ล่ะ ก็ความปรารถนาดีของพ่อแม่ สังคม มึงไม่ใช่หรอ …
เป็นมึง มึงก็จะรู้สึกปลอดภัย ถ้าลูกของมึงเรียนจบโรงเรียนดีๆ สถาบันดีๆ ได้งานดีๆ เพราะสังคมที่มึงอยู่ จะผลักมันขึ้นไปในที่ที่สูงขึ้นตลอด ถ้าเพื่อนทุกคนวิ่งไปข้างหน้า จะดีจะเลวยังไง มันก็ยังพาๆกันไป”

“ไม่ว่าจะมีความสุขหรือไม่ หรือไม่ว่าสังคมจะเป็นอย่างไร อย่างน้อย… มันก็ปลอดภัย”

“กูว่าไอ้เอกมันอ่านขาดว่ะ ที่แม่งทิ้งความสัมพันธ์ ตัดขาดจากเพื่อนไปเลย กูว่า มันคงคิดว่า ถ้ายังเป็นเพื่อนกัน แม่งก็ต้องถูกความคาดหวังของสังคม มา Benchmark วิถีชีวิตแม่ง”

“ที่เด็กจุฬาฯ ส่วนใหญ่จะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ มันก็น่าจะถูกต้องแล้วนี่หว่า ก็เพราะสังคม ได้ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำทางโอกาส คนที่มีทางเลือก เป็นใครก็อยากจะขึ้นไปที่ยอดของพิรามิดทั้งนั้นแหละวะ”

“แล้วทำไมเอ็นจิเนียร์โรงงานกู วิ่งตามญี่ปุ่นไม่ทัน กูไปดูงานนี่แม่ง… เห็นแล้ว อีกกี่สิบกี่ร้อยปีเมืองไทยมันจะเจริญ หรือ สู้เค้าได้วะ..”

“ไอ้ห่า ก็แวลู หรือ การให้คุณค่ามันต่างกันนี่หว่า ถ้าคิดค่าครองชีพ (ราคา) ต่อระดับมันสมอง เมืองไทยอาจจะถูกกว่าก็ได้ และแน่นอนว่า อีกไม่นานทุนมันก็ต้องย้ายไปที่ พม่าถูกกว่า อินเดียถูกกว่า จีนถูกกว่า และก็ทำให้ ไอ้พวกมีทางเลือก ก็ต้องวิ่งขึ้นไปบนยอดพิรามิด เพราะเป็นคนบริหาร ยังไงก็แดกเยอะกว่าเป็นช่าง …
ใช่มั้ย ก็ในเมื่อเดี๋ยวมันก็จะมีช่างราคาถูก เกิดขึ้นตามประเทศต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนที่มีโอกาสไปเรียนบริหารตามตำราฝรั่งนั้น มันผลิตออกมาได้น้อยกว่า ”

“เพราะงั้น เมื่อ แวลู ของสังคมมันเป็นอย่างนี้ ถ้ามึงเป็นทาสฝรั่ง มึงก็อยู่เกือบๆยอดพิรามิด … ซึ่งแม่งเป็นมาตั้งแต่ตอนที่มึงยอมแลกข้าว 1 เกวียนกับกระสุน 1 นัดแล้ว หรือ ไม่งั้นก็ ข้าว 1 เกวียน กับ โค้ก 1 กระป๋อง”

“แต่สำหรับกู ไอ้คนที่ซื้อของมา 4 บาท แล้วเอามาขาย 10 บาท – ชีวิตมันไร้ค่าว่ะ”

“ก็แล้วแต่มึง ความฝันของเอ็นจิเนียร์ อาจจะอยาก “สร้าง” อะไรต่ออะไร แต่เดี๋ยวนี้ มันก็พ้นสมัยไปแล้วนะโว้ย เพราะไม่ว่ามึงสร้างอะไร มันก็ไร้ค่าทั้งนั้น มึงสร้างเครื่องบินได้ มันก็เอาไปก่อสงครามได้… ไม่มีสิ่งประดิษฐ์อะไรที่ทำให้โลกเจริญขึ้นหรอกวะ..”

“ไอ้เหี้ย ถ้าคิดตาม PostModern มึงก็ไม่ต้องทำเหี้ยอะไรแล้ว…”

“เออมั้ง ไม่รู้โว้ย แดกเหล้าดีกว่า…”

ไม่ว่าจะพูดด้วยภาษา หรือ ความรู้ระดับไหน แต่ในที่สุด ในสายตาของใครต่อใคร เราก็คงเหมือนลุงขี้เมาที่เอาแต่กินเหล้าในหมู่บ้าน พูดจาเพ้อเจ้อ … และไม่ยอมไปช่วยใครทำนา..

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

ในช่วงนั้นมีคำถามเชยๆที่ถามกันมาทุกสมัย กำลังฮิต
คำถามนั้นถามว่า “ถ้าพรุ่งนี้โลกจะแตก คุณจะทำอะไรเป็นสิ่งแรก”

ไอ้เติ้งได้ยินแล้วก็ทำหน้ากรุ้มกริ่ม พลางรีบออกตัว
“กูไม่บอกมึงหรอก ว่ากูจะทำอะรายยยย”

ไอ้กอล์ฟฟังคำถามแล้วก็ทำท่าคล้ายเลือดกำเดาจะกระฉูด
“กูก็ไม่บอกมึงหรอกโว้ยย ว่ากูจะทำอะรายยย”

ไอ้ป่านเห็นสองคนทำท่าเช่นนั้น มันถึงกับเกิดพุทธิปัญญา
“ไอ้เหี้ย กูว่ามันต้องคิดเหมือนกูแน่ๆเลย ว่าจะทำอะรายยยยย”

จนไอ้เหลาอดทนไม่ได้ – รำพึง
”..อืมมม ถ้าพวกแม่งเสือกชอบดาราคนเดียวกัน มันคงยุ่งพิลึก…”
ก่อนที่จะสรุปการประชุมว่า..

“ต่อคำถามนี้ กูรู้ว่าพวกมึงไม่บอกหรอกว่า จะทำอะไรเป็นสิ่งแรก”
“แต่ก็บอกได้เลยว่า …”

“ถ้าพรุ่งนี้โลกจะแตก … รถจะติดหน้าบ้านดารา”

ความเห็น