วันอกหักแห่งชาติ

14 กุมภาพันธ์ 2002 00:29 น. บันทึก ,

ความจริงมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย สำหรับการจะผ่านพ้นวันวาเลนไทน์ไปได้โดยสติยังสมประกอบอยู่
แต่ที่ทำให้กระผมต้องนึกถึงเรื่องระห่ำเก่าๆ เยี่ยงผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไม่อาจหวนไปมีกำลังวังชาดังวันวาน – นั้นก็คือ การที่นาย ต. (หน่วยเปลี่ยนโอกาสให้เป็นวิกฤติ) บอกเพื่อนๆว่า “กูลางานไว้แล้ววันที่ 15 ดังนั้นวันที่ 14 มาร่วมรับประทานอาหารค่ำกันหน่อยโว้ยยย”

นาย ต. คือใคร..?
ขออนุญาตท่านผู้อ่าน ให้กระผมแนะนำนาย ต. ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ด้วยวาทะที่นาย ต. ให้เกียรติกล่าวข่มไมเคิลจอร์แดน …

Micheal Jordan

I’ve missed more than 9000 shots in my career. I’ve lost almost 300 games. 26 times, I’ve been trusted to take the game winning shot and missed.
I’ve failed over and over and over again in my life.

And that is why I succeed.

Mr. T.

I’ve missed more than 1000 chances greeting some girls in my life. I’ve lost almost 7 times only when she knew that I fond of her. 2 times, I’ve been trusted that this was my true love but it was only sadness I received.
I’ve failed over and over and over again in my life.

And that is why I paid.

– – –

เรื่องราวในครั้งกระโน้นมันเกิดสมัยเมื่อปี 3 ในคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์

ไอ้เม่นเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน วันนี้น่าจะไปเดินเล่นแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน ตักสุรา ร้านเหล้าประจำของพวกเราในสมัยนั้น เดินเล่นไปมา เท้าเผลอพาเข้าร้านก่อนเวลาอันควร แต่ก็พบว่า มีเพื่อนผู้ไม่มีแฟนมานั่งอยู่ที่ร้านแล้ว 2-3 ตัว – โดยมิได้นัดหมาย

“ฤาจะเป็นวันมาฆบูชาแห่งชมรมชายโสด..” ไอ้เม่นคิดในใจ

==============================

ตัดภาพไปที่ นาย อ. ผู้ที่เพื่อนๆต่างให้อภัยในการตีตัวออกห่างในระยะนี้ เพราะเห็นว่ามันกำลังจีบสาวนางหนึ่งอยู่ เห็นว่าสาวเจ้าพอจะรู้เลาๆแล้วว่า ที่นาย อ. ทำตัวเป็นคนดีเทียวไล้เทียวขื่ออยู่ 7-8 ปีนี้ “เพราะมันจีบโว้ย ไม่ใช่อยากเป็นเพื่อน” ก็เลยทำให้สาวเจ้าทักทายด้วยถ้อยคำหวานหู ให้แก่นาย อ. อยู่บ่อยครั้ง
“ไอ้เหี้ย…”

นาย อ. ซื้อดอกกุหลาบมาช่อใหญ่ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าพริ้วอาบมัน ที่คิดว่าดูดีที่สุดในชีวิต ขโมยรถบีเอ็มดัพเพิ่ลยูของท่านแม่มาใช้แทนรถสับปะรังเคคันเก่า แล้วก็รีบบึ่งไปหาสาวเจ้าที่บ้าน เพื่อทำเซอร์ไพรส์

ดอกกุหลาบช่อโตเบียดอยู่ ณ ที่นั่งเบาะหน้า นาย อ. ส่องกระจกมองหลังเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง จัดเนกไทให้เข้าที่ แล้วไปจอดรถบริเวณใกล้ๆหน้าบ้านสาว พร้อมกับเดินลงจากรถ และคว้าช่อกุหลาบ แอบไว้ด้านหลัง

“ติง ต๊อง…” เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น แต่แทนที่จะได้เห็นสาวเจ้ามาเปิดประตู กลับพบว่า เธอเพิ่งมาจากอีกด้านหนึ่ง แล้วกำลังจะเข้าบ้าน

“มาทำอะไรที่บ้านชั้น ไอ้เหี้ย อ.” สาวเจ้าทักนาย อ. ด้วยประโยคสะท้านทรวง
“ก็มาหานะซิ” ไอ้ อ. รีบบิดร่าง เพื่อบังช่อกุหลาบ ก่อนจะหยอดคำหวาน “แล้วนี่ไปไหนมายะ บ้านช่องไม่รู้จักกลับ”

“ชั้นก็ไปเที่ยวกับแฟนชั้นน่ะสิ ตกลงแกจะมากินข้าวบ้านชั้นมั้ย เดี๋ยวให้แม่หาของให้กิน”

…….. เที่ยวกับแฟน เที่ยวกับแฟน เที่ยวกับแฟน เที่ยวกับแฟน เที่ยวกับแฟน …….

เสียงเอ๊คโค่ดังขึ้นรอบกายไอ้ อ. ก่อนที่ฟ้าจะฝ่าลงมาที่กบาลของมัน พร้อมๆกับที่แผ่นดินได้แตกแยกออก ภูเขาไฟระเบิด ลาวากำลังไหลมาโถมทับ และห่าฝน ลูกเห็บ … ได้กระหน่ำลงมาทั่วร่างของไอ้ อ.

“เอ่อ ไม่ล่ะ” เสียงแผ่วเบาราวกับคำกระซิบหลุดออกมาจากปากนาย อ. และก่อนที่สติทั้งมวลจะวูบดับไป ไอ้ อ. เริ่มคิดถึง ไมเคิล แจ็กสั้น และทำการเดินแบบ มูน วอลกเกอร์ กลับเข้ารถ เพื่อมิให้สาวเจ้าได้เห็นดอกกุหลาบช่อนั้น ช่อที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใยอาทร และ ความแห้วววววว

==============================

ตัดภาพกลับมาที่ร้านตักสุรา เวลานั้นประมาณ 4 ทุ่ม มีเพื่อนสิบกว่าคนกำลังเบียดอยู่เต็มร้านโดยมิได้นัดหมาย (ทุกคนต่างไม่มีแฟน และไม่ยอมกินยานอนหลับตามที่ตกลงกันไว้) ไอ้ อ. วิ่งหน้าตื่นเข้ามาในร้าน ก่อนจะล้มร่างลงคร่ำครวญ

“โฮ…. แด่วันที่โหดร้าย … ใครก็ได้ ช่วยทำให้คืนนี้หายไปเสียทีเถิดดดดดด”

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

เรื่องที่ไอ้เม่นเผลอเล่าไปจนจบนั้น ท่านผู้อ่านอย่าได้คิดมาก และควรคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงจะดีที่สุด มิฉะนั้น นาย อ. เพื่อนของกระผม อาจมาตื้บเอาได้ ด้วยความที่เอามันมาเผาเสียๆหายๆ

อย่ากระนั้นเลย ชิงเล่าเรื่องของตัวเองก่อนละกัน

วันนั้นก็น่าจะเป็นวันวาเลนไทน์ (แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่คอนเฟิร์มนะเด้อ) ที่ไอ้เม่นนั้นอยากกินเหล้า ด้วยเหตุผล 1. อยากรู้ว่าเมาเป็นยังไง 2. แห้ว เพื่อนๆจึงไปร่วมสนับสนุนกันที่ร้านตักสุรา ที่เดิม

ช่วงนั้น 2499 อันตพาลครองเมืองกำลังดัง เราจึงหาฉายากันมั่ง เช่น
โน้ต น้ำมะพร้าว (มันไม่ค่อยกินเหล้า แต่ชอบกินน้ำมะพร้าวมาก เพื่อนๆเห็นว่า อาจเป็นเพราะความเชื่อที่ว่า น้ำมะพร้าวจะทำให้ หญ่ายขึ้น)
โอ๋ ทอรัส (ตอนนั้นยังไม่มีทเวนตี้ผับน่ะ)
เก๋ บางโพ
ชาร์ด เพชรบุรี (คือไอ้ชาร์ดมันอยู่เพชรบุรี ซอย 5 น่ะ อิอิอิ)

[หมายเหตุ: ของเพื่อนคนอื่นๆจำไม่ได้ว่ะ ใครจำได้ช่วยบอกที คุ้นๆว่า ของไอ้เซนี่เท่มากๆ]

แต่สำหรับไอ้เม่น มันไม่สนใจเรื่องฉายา เพราะมันจะกินเหล้า แล้วก็สมใจเมื่อได้อ้วกไปถึง 7 ครั้ง โดยครั้งสุดท้าย ก็ได้ก่อวีรเวรขึ้นจนได้

ไอ้เม่นเดินไปอ้วกที่โถส้วม (มารยาทข้อแรกๆของการเป็นขี้เมานั้น คือการห้ามอ้วกที่อ่างล้างหน้า เพราะมันทุเรศ และ อ่อน..) แม้ขณะนั้นมันยังมีน้ำหนักไม่มากนัก แต่การเป็นฟูลแบ็คร่างกำยำ มันก็เผลอทำที่ปิดแท้งค์ของชักโครกตกลงมาแตก และก่อนที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร มันรีบไปล้างหน้าที่อ่าง แต่ดันเผลอสัมผัสแรงไปอีก …

“เพล้งงงงงงงง” อ่างล้างหน้าตกลงมากระทบพื้นคอนกรีต

เมื่อทำลายส้วมเขาขนาดนี้ แน่นอนว่าเพื่อนๆต้องรีบมาที่เกิดเหตุเพื่อดูว่า อะไรเป็นอะไร ไอ้เม่นเห็นดังนั้นจึงคิดว่า ควรแกล้งเมาตายเป็นดีที่สุด เพื่อหนีปัญหายุ่งยากนานา เยี่ยง ลูกเหลิม ฮีโร่ของสังคมไทย

“กูรู้แล้ว ว่าไอ้เม่นมันควรจะมีฉายาว่าอะไร…” เพื่อนคนหนึ่งกล่าวหลังเคลียร์ตังค์ค่าทำลายร้าน

“ฉายาของมัน .. คือ”

“เม่น ระเบิดอ่าง”

ความเห็น

ความคิดเห็น

  1. eve พูดว่า:

    ที่รัก! อ่านๆไปหนูชักอยากกินเหล้าจริงๆด้วยว่ะ
    เราจะเป็นคู่กินเหล้าที่คู่ควรกันนะจ๊ะ