เรียนต่อ? : ความลับของชีวิต

23 มกราคม 2002 00:27 น. บันทึก

ห่างหายไปเสียนาน ข้าพเจ้ามิได้หมดเรื่องที่จะเขียนหรอกขอรับ แต่มีบางเรื่องที่ยังเขียนไม่ได้ต่างหาก
บางเรื่องที่ต้องใช้เวลาคิด ตัดสินใจ รวมถึงความโอหังที่ยังไม่อยากได้ยินคำปรึกษา หรือ ปลอบประโลมตามมารยาท

จนกระทั่งได้คำตอบที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา คำตอบที่บอกว่า กระผมควรต้องวางแผนในชีวิตได้แล้ว และควรเปลี่ยนความคิดบางอย่างเสีย
ไม่ว่าจะเคยดำรงตนอย่างฟุ่มเฟือย มาจนชินแค่ไหน
“ไอ้เม่น มึงจงใช้ทุกสิ่งในชีวิตให้ฟุ่มเฟือยที่สุด … เพราะชีวิตนั้นได้มาฟรี”

หลายวันก่อน แม่โทรมา ถามว่า จะไปเรียนต่ออเมริกาไหม ไปอยู่กับแม่ .. รู้สึกแปลกบ้าง เพราะไม่ได้อยู่กับแม่มาตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ แต่กระผมก็คิดใคร่ควรแล้ว ตกลงว่า จะไป นั่นหมายความว่า กระผมควรต้องเตรียมตัว และ วางแผนสำหรับอะไรต่ออะไรเสียที

แม่อยู่ไมอามี่ กระผมอาจจะเข้ามหาวิทยาลัยของฟลอริด้า แม่บอกว่า อาจได้ทุนของบริษัทแฟนแม่ หรือ อาจเป็นทุนของจีอี (เพราะเห็นว่าแฟนแม่เป็นเพื่อนกับคนใหญ่คนโตในนั้น)

เพื่อนบางคนได้ฟังแล้วก็ไม่วายแซว
“ไหนมึงว่า มึงเกลียดอเมริกา”

แต่กระผม เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็หาข้อแก้ตัวได้ไม่ยากหรอก
“กูเพิ่งอ่าน “วิหารที่ว่างเปล่า” หนังสือของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล เล่มใหม่ มีตอนนึงกล่าวถึงชีวิตในวัยเด็กของเค้า ที่อยู่อเมริกา มีอาจารย์ที่น่าเคารพ มีผู้คนที่เป็นมิตร …”
“และนั่นก็ทำให้กูกลับมาคิดว่า ที่กูเกลียดเนี่ยมันอะไรวะ นโยบายต่างประเทศของอเมริกา ? หรือว่า ไปตัดสินคนอเมริกันทั้งหมด ด้วยการรู้จักแค่ ปลายแถวของนักธุรกิจ ที่มาทำงานในเมืองไทย หรือ แค่นักท่องเที่ยวกเฬวราก ที่แม่งก็เหี้ยเหมือนๆกัน …”
“หรือว่า Globalization ที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเกิด .. และมึงก็รู้ว่า มากซิสต์ ล่มไปก็เพราะคนสร้างมันขึ้น ในขณะที่ทุนนิยม มันมาจากรากฐานของชีวิตมนุษย์อยู่แล้ว..”

เอาเถิด ไม่ว่าข้อแก้ตัวไหน ยังไงคิดว่า ผมก็คงได้ไปอเมริกา ซึ่งดูจากงาน และ เรื่องต่างๆที่ต้องสะสาง ก็ห็นว่า น่าจะอีกหลายเดือนหน่อย อาจจะช่วงสิงหาฯ

ในขณะที่พี่สาวผมบอกว่า “เม่นทำงานก็ไม่มีเงินเก็บอยู่ดี เคลียร์งานเสร็จแล้วก็มาอยู่วัดไหมล่ะ” เพราะพี่สาวผมไม่ค่อยเชื่อในประสบการณ์ทำงาน – มันเทียบไม่ได้กับการสร้างบารมี (บุญ)

ความลับของชีวิต

จำได้ว่าช่วงปีใหม่ ไปสวัสดีอากู๋ ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เป็นกรรมการบริหารของเครือเซ็นทรัล หลังจากกินข้าว – พูดคุยกันแล้ว อากู๋ ก็บอกว่า
“กู๋จะเล่าความลับของชีวิตให้ฟัง ..”

“ความลับของชีวิตก็คือ .. เธอมีเวลาสำหรับสร้างฐานะแค่เพียงอายุ 30-40 เท่านั้น
ก่อนหน้านั้นคือการค้นหาว่าจะทำอะไร หลังจากนั้นคือการเก็บเกี่ยวในสิ่งที่เธอทำ”

“ที่กู๋ฟังชีวิตของเธอดูเนี่ย ก็เข้าใจว่า ยังอยากลองอยู่ อยากจะหาความฝันหรืออะไร .. แต่อย่างที่กู๋บอก เธอมีเวลาลองอีกไม่มากแล้วนะ หากคิดว่า จะใช้ชีวิตในทางไหนในอีก 10-20 ปีข้างหน้า, เธอก็ควรไปทางนั้นได้แล้ว…”

“แล้ว Trend ของธุรกิจในอนาคต กู๋คิดว่า มันคืออะไรล่ะครับ…”

“ก็ไม่ต่างจากที่เห็นอยู่ในปัจจุบันหรอก ธุรกิจของไฮเทค กับ ทางการแพทย์ – ไบโอเทคโนโลยี… เพราะธุรกิจเกษตรที่คิดว่า ‘ทุกคนต้องกินข้าว’ นั้น เอาเข้าจริงก็มีคนผลิตได้ถูกกว่า และมันก็ล้นเกิน..”

“ประเทศไทยมีนักบริหารเยอะแล้ว … จะไปเป็นสเปเชียลลิสต์ มันก็มีทางไม่น้อยนะ..”

รายงานความคืบหน้า

เรื่อง Gallery เสร็จแล้วนะครับ (เวอร์ชั่น 0.9 ละกัน เพราะยังทดสอบไปนิดหน่อยเอง) ท่านใดที่อยากได้ SourceCode ก็เชิญ Download ได้เลยคร้าบ (สำหรับเว็บรุ่น รอก่อนเด้อ แหะ แหะ)

เรื่อง กองทุนรวม เพื่อคนโสดคนสุดท้าย ตอนนี้ได้ความคืบหน้าคร่าวๆคือ

1. ต้องจ่ายเงินเข้าบัญชีกลางทุกปีก่อนสิ้นเดือนกันยายน เวลาประเทศไทย จำนวน 500 บาท – ขอเรียกว่า 1 ดริ๊งค์ เพื่อความเข้าใจง่าย

2. สตาร์ท 2 ดริ๊งค์ในปีแรก (2545) เพื่อป้องกันคนเปลี่ยนใจ ถอนตัว

3. ชายหรือหญิงก็ได้ ใครสนใจให้ส่งรูปถ่าย + ชื่อแผนกที่สังกัด + ข้อความอะไรก็ได้ เพื่อท่านเม่นจะเอาลงเว็บเป็นหลักฐาน

4. จากข้อ 3. “ชื่อแผนกที่สังกัด” นั้น สามารถตั้งว่าอะไรก็ได้ เช่น – แผนกคนหน้าตาดีแต่ไม่มีแฟน (ตั้ม) – แผนกคนไม่เคยมีแฟนแต่เคยมีความรัก (เหลา) – แผนกผู้ชายอบอุ่นแต่ไม่เคยมีแฟน (เม่น)
ฯลฯ

5. ตอนนี้ให้ปุ้ยเป็นเหรัญญิกก่อน อย่าลืมไปเปิดบัญชีนะมึง

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ

ขณะที่กำลังถกเถียงกันถึงความคืบหน้าของกองทุนรวม เพื่อคนโสดคนสุดท้าย นั้น นาย ป. ที่มีแฟนชื่อ จ. (ที่คบกันมานาน แต่เห็นว่า บอกเลิกกันวันละ 3 เวลา) ก็เดินเข้ามาแล้วประกาศโดยทั่วกัน

นาย ป. “เฮ้ย อย่าลืมรับกูเป็นสมาชิกด้วยนะโว้ย”
เพื่อนๆ “ไอ้ห่า ชมรมนี้เค้าไว้สำหรับชายโสดโว้ย มึงมีแฟนแล้วไม่ใช่หรอวะ”
นาย ป. แม้จะสะอึกเล็กน้อย แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน

“ไอ้ห่า ของอย่างนี้มันก็เหมือนประกันชีวี้ตตตต ทำไว้ก็ไม่เสียหาย ใครจะรู้ กูอาจจะได้เงินก้อนนี้ก็ได้ อิอิอิ”

ความเห็น

ความคิดเห็น

  1. worktravelusa พูดว่า:

    ยังไงก็ขออนุญาตรับสิ่งดีๆ ไปก่อนนะจ๊ะ