สวัสดีปีใหม่ 2556

4 มกราคม 2013 23:23 น. บันทึก

เนื่องจากเขียนบล็อกน้อยมากในแต่ละปี ดังนั้นการได้เขียนสรุปเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมาก็ทำให้ได้ทบทวนตัวเองดีเหมือนกัน

ปี 2555 นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มากกับชีวิต ได้ทำงานในโครงการที่ใหญ่ขึ้น ดูแลทีมขนาดใหญ่ขึ้น ต้องบินลงกรุงเทพฯ บ่อยกว่าที่คิดมาก มีความรับผิดชอบที่ไม่อาจปฏิเสธอยู่หลายเรื่อง ทำให้กระทบกับเวลาที่ให้ครอบครัวและการพัฒนาตัวเอง

รู้สึกเลยว่าหลุดไปไกลมากจากที่วางแผนชีวิตไว้ในวิถีแห่งเจ้าสำนัก และที่เขียนแนวทางของบริษัทขนาดเล็กไว้ที่หนังสือ Rework, คัมภีร์ของบริษัทสมัยใหม่ เลยทำให้กระทบกับวิถีชีวิต, ความฝัน และความรัก ดังที่ปรากฏในบันทึกบทเพลงที่เศร้าที่สุดในโลก, รักแท้ และการขอขมา

เข้าใจถึงข้อจำกัดของความสามารถของตัวเอง ยอมรับว่าสิ่งไหนคือความฝัน และสิ่งไหนคือความเพ้อฝัน ปีนี้เลยวางแผนลงกรุงเทพฯ ให้น้อยหน่อย (เหลือเดือนละครั้งตามตารางนัดหมาย ) และหาโมเดลที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น ลดการบริหารงานในสามย่าน ลง และไปโฟกัสที่การ R&D, ฝึกอบรมทีม และผลิตงานแทน, ส่วนงานในไทเกอร์ ไอเดีย ก็ลดเวลาทำงาน ลดเงินเดือนลง, งานไวไวซอฟท์ มีเพิ่มงานด้าน WordPress Theme อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ลดงานรับจ้างผลิตและประสานงาน เพื่อโฟกัสที่งานสร้างสรรค์, สร้าง Digital Asset, เพื่อจะได้อยู่ปายจริงๆ เสียที

ปีนี้คงเป็นปีที่ใช้ชีวิตไปทีละวัน เติบโตไปทีละวัน รู้สึกว่ามั่นคงและมั่นใจยิ่งนัก

ข้อคิดในปี 2555

  1. รักแท้ก็คือรักธรรมดาๆ นี่แหละ แค่ดูแลกันให้ดีเท่านั้นเอง, ดูแลความรักดี ความรักก็ข้ามภพข้ามชาติได้ ดูแลไม่ได้ ที่ทำบุญร่วมกันไว้ มันก็หมดโมเมนตัมไป
  2. จะประสบความสำเร็จได้ ควรทำสิ่งที่ รัก, เก่ง และทำกำไร
  3. งานแพงกับงานถูก บางทีผลงานอาจจะเหมือนกัน สิ่งที่ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายคือ “ความมั่นใจว่ามันจะจบ” ซึ่งเอเจนซี่/สตูดิโอ/ฟรีแลนซ์ ต่างก็ต้องหาวิธีของตัวเองไป
  4. ทำให้พบว่า ทักษะที่ในเมืองไทยขาดมากๆ เลย คือ Project Management (การบริหารโครงการ), ผมเองคิดว่าหาคนเก่งด้านนี้ยากกว่า Designer (นักออกแบบ) หรือ Developer (นักพัฒนา/โปรแกรมเมอร์) เสียอีก
  5. สิ่งสำคัญของ Project Management ที่ผมคิดว่าสำคัญกว่าการ manage resource (จัดการทรัพยากร คน/เงิน/เวลา) อีก คือการ manage expectation (การจัดการความคาดหวัง พูดง่ายๆ คือ เคลียร์กันให้ชัด ว่าใครจะได้อะไรจากใครบ้าง แค่ไหน)
  6. ตามหลักการของพาเรโต ลูกค้า 20% จะสร้างความวุ่ยวาย 80% ถ้าหาเจอแล้วไม่รีบแก้ไข ความวุ่นวายก็จะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
  7. วาทะ @wirojla “eBook อาจดูน่าสนใจกว่า Printed Book แต่เมื่อเทียบกับสื่อ online และ digital content อื่นๆ แล้วสู้ไม่ได้”
  8. เลยคิดต่อว่า ถ้ามี digital content ในมือที่มั่นใจว่าดีมากๆ ไม่ควรทำเป็นรายการทีวี/Blog/iPad Magazine/eBook/หนังสือ แต่ทำเป็น Premium Content สำหรับสมาชิก หรือคอร์สออนไลน์ดีกว่า
  9. เมื่อไม่อยากยุ่งกับองค์กรขนาดใหญ่ (เพราะ 99% นั้นเอาแต่ได้) ก็ต้องตัดใจว่า เราไม่ควรสร้าง Product ที่ต้องดีลกับองค์กรขนาดใหญ่
  10. เมื่อไม่อยากยุ่งกับการ Support งานจิปาถะ ก็ต้องตัดใจว่าเราไม่ควรสร้าง Product ที่ต้องขายพร้อมทีม Support (เช่น เว็บสำเร็จรูปสำหรับคนทั่วไป, แอพสำเร็จรูปสำหรับคนทั่วไป, การทำ Payment Gateway, การสร้างตลาดขายธีมในไทย, การสร้าง Solution ที่ต้องมีบริการหลังการขาย  ฯลฯ)
  11. หนังสือ Work for Money, Design for Love กล่าวว่า ทำงานมา 10  ปี ไม่เคยเห็นใครที่ รับจ้างทำ Project เพื่อหาเวลามาผลิต Product ที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วทำได้ดี ได้เลย คนเราจะทำอะไรได้ดีต้องโฟกัส
  12. เลยได้คำตอบของปีนี้จนได้ว่าชีวิตควรจะโฟกัสอะไรและเดินไปทางไหนต่อ พอเข้าใจตัวเองแล้วก็มีความสุข 🙂

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ

ความเห็น

ความคิดเห็น