ชีวิตจริงไม่มี UNDO

30 มกราคม 2002 00:28 น. บันทึก

มันเป็นคำอุทานแรก และคำอุทานเดียว ที่ชำแรกมาในก้นบึ้งแห่งสัมปชัญญะ เมื่อไอ้เม่นได้กระทำชำเราแก่ข้อมูลใน HARDDISK 30 GB อันบรรจุข้อมูลส่วนตัว-ทั้งหมดของชีวิต-อยู่ 20 GB

[format/u ตามด้วยลง WinME แล้วเปลี่ยนใจมาลง Win98Se โดยคิดว่า กำลังทำกับ HardDisk อีกตัวหนึ่ง ใช้ norton กู้คืนมาได้เพียงบางส่วน โดยมีชื่อไฟล์กระจุยกระจาย]

มันไม่ต่างอะไรกับการที่กวีอย่างท่านอังคาร จะเพ้อรำพันว่า “โอ้วว่าอนิจจา ข้าทำชีวิตหายไปครึ่งหนึ่ง…” เลยเชียว สำหรับคนที่ จะดูนาฬิกาก็ต้องเปิดคอม , จดเบอร์โทรก็ต้องใช้คอม , หรือแม้แต่จีบสาว ยังต้องอาศัยคอม… และด้วยความเคยชินอันนั้น ก็ทำให้กระผมค้นหาว่า มันมีปุ่ม UNDO สำหรับชีวิตไหมหนอ

เฮ้อ แม้จะเป็นคำพูดอันเชยผสมพันธุ์กับกระแดะ แต่กระผมก็คิดว่ามันเป็นปรัชญาที่ลึกซึ้ง และเจ็บปวดจริงๆนะ

กับคำว่า …

“ชีวิตจริงไม่มี UNDO” …

หลังจากนั้นกระผมก็คุ้ยซากปรักหักพังหลัง Format เพื่อหาบางสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิต และ ความทรงจำ
แน่นอนว่า หนึ่งในเรื่องราวอันมีค่านั้น ก็คือ Email จำนวนหนึ่ง ที่เขียนให้คนคนหนึ่ง

ผมคงไม่เอามาให้ดูหรอก เพราะว่า มันจะเขินเกินไป
แต่กระนั้น..
ก็คิดว่าจะเล่าให้ฟังละกันนะ

เรื่องมันเริ่มจากเช้าวันหนึ่ง ในฤดูหนาว…..

(ติดตามตอนต่อไป ฉบับหน้า…)

นินทากาเลเหมือนเทสุรา เป็นเรื่องธรรมดายิ่งกว่าหายใจ
ไอ้จ๋ง ผู้คลั่งไคล้หวัง เจีย เหว่ย (หว่อง คาไว) มิย่อหย่อนไปกว่าการเป็นสาวกหงส์แดงผู้ภักดี วันหนึ่ง มันมาหาไอ้เม่นที่ออฟฟิศ แล้วกล่าวถ้อยคำแห่งความสิ้นหวัง ด้วยใบหน้าแน่นิ่ง

“ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของนกไร้ขา ที่ชั่วชีวิต มันได้แต่บินและบิน
เหนื่อยก็นอนในสายลม ในชีวิต มีเพียงครั้งเดียวที่มันจะลงสู่พื้นดิน
คือเมื่อมันตาย”

(จากเรื่อง Day of being wild)

ไอ้เม่น : “เป็นเหี้ยอะไรมึง”
ไอ้จ๋ง : “เปล๊า ผมพูดเล่นๆ มันเท่ห์ดี”
ไอ้เม่น : “ผิดหวังในชีวิต?”
ไอ้จ๋ง : “ปล๊าววว”
ไอ้เม่น : “ผิดหวังในเรื่องงาน?”
ไอ้จ๋ง : “ปล๊าววว”

ไอ้เม่น : “รึว่าเรื่องความรัก?”
ไอ้จ๋งถึงกับสะอึกไปเล็กน้อย แต่อย่างไรเสีย มันก็ยังหน้านิ่งเหมือนเดิม

“โอว มันเป็นเรื่องน่าเศร้า พระเจ้าประทานจิตใจเจ้าชู้มาให้กับผม
แต่พระองค์ไม่ประทานหน้าตาที่เหมาะสมมาให้ด้วย โฮ โฮ…. “

ความเห็น

ความคิดเห็น

  1. eve พูดว่า:

    เราก็เป็นยกใจ๋ ..ไม่รู้หรอกว่าในชีวิตจะรักใครมากที่สุด
    จะรู้ก็ตอนที่เรากำลังจะตายนั่นแหล่ะ