เรื่องส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีคนรู้ 5 ประการ

7 มีนาคม 2007 09:47 น. บันทึก

เห็น Blog-Tag เข้ามาเมืองไทยตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้ว อ่าน Blog ของคนอื่นมาก็มาก แม้จะไม่ได้นึกอยากร่วมสนุกอะไร แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ที่ไม่มีคนส่งต่อมาให้กระผม คงเพราะ เห็นกระผมเป็นคนจริงจัง คงไม่สนใจ Blog-Tag ? หรือไม่ก็คิดว่า – ไอ้เม่นมันยังอัพเดท blog อยู่รึ ?

Blog Tag คือการบอกสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับตัวเอง 5 อย่าง แล้วก็ส่งต่อให้คน 5 คน

คุณ Poppyw ส่ง Tag มา ก็เชิญอ่านครับ

1. เมื่อก่อนควบคุมความฝันได้ ชอบฆ่าตัวตายในฝัน

เคยอ่านตำราเกี่ยวกับการทำให้ตัวเองรู้สึกตัวในฝัน ตอนเด็กๆเลยพยายามทำตาม และก็พบว่าตัวเองรู้สึกตัวในฝันได้จริงๆ แรกๆพอรู้สึกตัว ร่างกายจะตื่น แต่หลังๆก็เริ่มไม่ตื่น และมีอำนาจที่จะทำอะไรก็ได้ในฝัน แม้แต่จะฝันไปอีกชั้นก็ได้ (หลังจากอ่านเรื่อง 1001 ราตรี ผมเคยฝันซ้อนฝันไป 10 กว่าฝัน ต้องค่อยๆตื่นจากฝันหนึ่ง เพื่อพบว่าตัวเองฝันอยู่ในอีกฝัน – ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดดี)

ที่รู้สึกว่าโรคจิตพอสมควรก็คือ ผมชอบลองฆ่าตัวตายในฝัน เหมือนร่างกายพยายามจะจินตนาการถึงภาวะหลังความตาย แต่มันก็ไม่รู้ว่าจริงๆคืออะไร มันเลยงงๆ แปลกๆ ไม่รู้นักจิตวิทยาจะเรียกอาการอย่างนี้ว่า พวกเสพติดการฆ่าตัวตายหรือเปล่า? 🙂

หลังจากบวช ผมไม่เคยรู้สึกตัวในฝันได้อีกเลย

2. เคยตั้งกฎว่าต้องมองผู้หญิงไม่เกิน 5 วินาที

พอมองย้อนกลับไป ผมจึงเข้าใจว่า ในวัยแรกรุ่นของผม ผมเป็นพวก “ตกหลุมรักความรัก” นั่นคือ เอาเข้าจริง ผมไม่ได้รู้จักหรือหลงใหลในตัวตนของฝ่ายหญิง แต่ผมหลงใหลในการตกหลุมรักมากกว่า

และตามประสาของพวกอ่านหนังสือเกี่ยวกับ “สุภาพบุรุษ” มามาก ผมจึงลองฝึกตัวเองให้ไม่สนใจหญิงสาวคนอื่น ด้วยการบอกตัวเองว่า ห้ามมองใครเกิน 5 วินาที

ปฎิบัติอยู่หลายปี มันทำให้หลังจากนั้น ช่วงหนึ่ง ผมมีปัญหาในการสบตากับหญิงสาว และจนถึงปัจจุบัน ผมจะไม่เคยตามชายหนุ่มรอบๆข้างทันเลยว่า มีใครสวยเดินผ่านมา (ผมแก้เขินในปมด้อยนี้กับชายหนุ่มคนอื่นว่า เพราะผมคิดว่าคนสวยที่ไม่รู้จักนั้น มีแค่ 2 ฟังก์ชั่น คือ 1. ให้เกียรติ 2. XXX นั้่นทำให้ผมไม่จำเป็นต้องไปมองหรือรู้จักพวกเธอ)

3. ผมเลิกมองพ่อว่าความรอบรู้ทุกสิ่ง เมื่อขึ้นชั้นประถม

ในทางจิตวิเคราะห์ เด็กผู้ชายจะนับถือว่าพ่อเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง จนกระทั่งเค้าผ่านปมออดิปุส ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงวัยรุ่น สำหรับผมน่าจะเรียกว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก (หรือไม่งั้นก็ไม่เกิดขึ้นเลย 😛 ) เพราะตอนป.1-ป.2 ที่ผมเพิ่งเคยเห็นพจนานุกรม ผมลองเปิดเล่นดู แล้วก็พบว่าในหมวด ฬ. ไม่มีคำอยู่ ผมนึกได้คำแรกว่า ปลาวาฬ ผมเลยถามพ่อว่า ทำไม ฬ. จุฬา ไม่มีคำว่า ปลาวาฬ?

พ่อบอกผมว่า “มันจะมีได้ยังไง?” และไม่มีคำอธิบาย ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้ผมในวัยนั้นรู้สึกเจ็บใจมาก ว่าทำไมพ่อถึงมีเรื่องที่อธิบายไม่ได้อยู่ด้วย

หลังจากนั้นผมเลยตั้งใจว่า อยากรู้อะไรต้องหาเอาเอง และก็ไม่ถามอะไรพ่ออีกเลย

4. ไม่ “นั่งดูทีวี” ร่วมกับผู้อื่น จนกระทั่งจบปริญญาตรี

ความผิดปกติของชีวิตผม ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมโตมาโดยไม่ได้ดูทีวี

พ่อผมฟังข่าวจากวิทยุ ไม่ชอบเปิดทีวี ครอบครัวในวัยเด็กจะอยู่พร้อมหน้าก็เมื่อกินข้าว ซึ่งพ่อจะไม่เปิดทีวี

วัยเด็ก ที่มีช่อง 9 การ์ตูน ผมอยู่ต่างจังหวัดซึ่งรับช่อง 9 ไม่ได้
วัยรุ่น ที่มีมิวสิควีดีโอเต็มบ้านเต็มเมือง ผมไม่ชินกับการเปิดทีวีเอง จึงพลอยไม่ได้ดู
ฯลฯ
อาจมีดูหนังจากวิดีโอร่วมกันบ้าง แต่มันก็คนละแบบกับดูทีวี

ครั้งแรกที่ไปอเมริกา และต้องนอนดูทีวีกับคนอื่น จึงเป็นเรื่องยากสำหรับผม เพราะหากเป็นหนัง ผมก็จะไม่สนทนากับใคร แต่ดูทีวี คนปกติเค้าคุยกัน ผมไม่รู้ว่าควรคุยอะไร (ทำไมเราไม่ตั้งใจดูกันวะ?) เมื่อไหร่ที่เราควรเปลี่ยนช่อง? (รายการก็น่าเบื่อเหมือนๆกัน ตอนไหนที่คนปกติเริ่มเบื่อ?) เสียงแบบไหนที่เรียกว่าน่ารำคาญ (ทั้งเสียงพิธีกรและตัวละคร ผมรู้สึกว่ามันน่ารำคาญไปหมด แยกไม่ออกว่า ระดับไหนที่คนทั่วไปเริ่มรู้สึกว่าน่ารำคาญ เลยทำให้เกิดปัญหาเดิมว่า เราควรเปลี่ยนช่องเมื่อไหร่)
ฯลฯ

แต่ทีวีก็เป็นลักษณะร่วมอันหนึ่งของสังคม พอผมหัดดูทีวีได้บ้าง ก็เข้าใจไวยากรณ์ร่วมของสื่อทีวี และมีมุมมองต่อสังคมกว้างขึ้น

5. ไม่เคยคิดจะซื้อบ้าน

ที่ผ่านมา แม้จะมีคอนโดเก่าๆ และบ้านอีกหลังของพี่สาวอยู่หน้ารามฯ ผมกลับเลือกที่จะอยู่หอที่ใกล้ๆที่ทำงานตลอด เพราะรังเกียจรถติด เพื่อนหลายคนกล่าวถึงหลักเศรษฐศาสตร์ด้วยความเป็นห่วงว่า อย่าเสียเงินกับค่าเช่า ควรจะเสียเงินกับ Asset และควรซื้อบ้านก่อนรถ เพราะบ้านราคาขึ้น รถราคาตก แม้ผมจะบอกว่า ยังไม่รู้ว่าบั้นปลายชีวิตจะไปอยู่ที่ไหน เพื่อนก็บอกว่าให้ซื้อไปเหอะ ไม่อยู่ก็หาคนมาเช่า

แรกๆผมงงตัวเองว่าทำไมไม่เห็นด้วยกับเพื่อน จนมาวิเคราะห์ภายหลังแล้วก็เข้าใจตัวเองว่า ผมรู้สึกว่า การมีบ้านที่ไม่ได้อยู่นั้น เป็นการเอาเปรียบคนอื่น (เพราะมี damand จำนวนมาก ในขณะที่ supply น้อยนัก) และวันหนึ่งหากจะแต่งงาน ยังไงฝ่ายหญิง(ถ้ามี) ก็น่าจะเรื่องมากกว่าผม ให้เธอตัดสินใจดีกว่า ดังนั้น ผ่อนซื้อไปตอนนี้ ก็ไม่ได้อยู่อยู่ดี

นั่นก็ทำให้ผมมีชีวิตดังตั๊กแตนในนิทานอีสปต่อไป อ้างเหตุผลสวยหรู จะได้ไม่ต้องเป็นมดที่ขยันทำงานผ่อนบ้านอยู่ หึหึหึ

ส่งต่อ 5 คน จะเขียนกันมั้ยเนี่ย

1. คุณเบน หญิงสาวสำนวนสวย
2. น้องโอ๊ส หญิงแกร่งสู้ชีวิต
3. น้องปู๊ดส์ นายช่างปากกล้า พักหลังเห็นเอาแต่ถ่ายรูป
4. น้องดำ ผู้กล่าวว่า “ความรู้เป็นของโลก ไม่ใช่ของกู”
5. พี่จันทร์ พี่สาวคารมคมคาย ไม่ได้เขียนบล็อกมาแค่ 3-4 ปี มาเขียนหน่อยมั้ยคร้าบ

ความเห็น

ความคิดเห็น

  1. Gung พูดว่า:

    อยากรู้ว่า พี่จันจะรับแท็กเปล่า แกยังเขียนมั่งอยู่อีกลิงค์หนึ่งนิ ลองคลิกตามไปดูนะ เผื่อแกจะเห็น

  2. ไอ่โอ๊ส พูดว่า:

    เข้าไปเขียนบล๊อคตัวเองไม่ได้….แง.ไม่รู้เป็นแมวอะไร.ใช้My Space แทนไปก่อนน๊า
    http://oatzinger.spaces.live.com/( ว่าแต่ว่าอีกห้าคน…จะหาที่ไหนกันล่ะเนี่ย บ๊อกแตก เนี่ย…)

  3. ไอ่โอ๊ส พูดว่า:

    ไมไม่ขึ้นอ่ะ…โพสความคิดเห็นไปแล้วอ่า
    เปลี่ยนลิงค์จ้า http://oatzinger.spaces.live.com/

  4. i n i n g z พูดว่า:

    ถ้าเป็นนิ้งก็คงไม่รู้จะเขียนอะไร เพราะไม่มีอะไรที่คนอื่นคงไม่รู้ อิออิ

  5. ben'tale พูดว่า:

    ขอบคุณค่ะคุณเม่น แต่ยังนึกว่าจะเขียนเรื่องตัวเองแบบ blog tag ยังไงไม่ออกเลยจริงๆ

    บวกกับเวลาช่วงนี้ และสมรรถภาพในการเขียนบล็อกเสื่อมลง

    เพิ่งได้อัพเดตบล็อกด้วยบุญเก่าที่เก็บๆไว้ ฮือๆๆ

    ขอติดไว้ก่อนน๊า แหะๆๆ

  6. พี่จันทร์ พูดว่า:

    เม่น

    พี่นึกไม่ออกนะ ห้าสิ่งที่คนไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับพี่

    เออ..หรืออาจจะที่จริงแล้วไม่อยากให้คนรู้ก็เป็นได้เนอะ

    “คำถามของธรรศ” พี่พิมพ์ใหม่นะ
    อันเก่าที่เม่นคุ้นๆ คือเรื่องของน้องจัมพ์
    พี่สาวของธรรศต่างหาก
    พี่มีเรื่องจะเล่า (อีกแล้ว)
    เม่นตามไปที่ Thaidiarist นะที่ TheBearDiary
    ไอ้เว็บ จันดารา เข้าไม่ได้แล้ว
    คือไม่ได้ใช้นานมาก จนลืม user name กับ password น่ะสิ
    นานมากจริงๆ

  7. Jennessa พูดว่า:

    ตอนเด็ก ๆ ชอบบังคับให้ตัวเองบินในฝันให้ได้ 😀 แต่พอโตขึ้นทำไม่ได้ล่ะค่ะ T T

  8. บัตรเครดิต พูดว่า:

    เป็นเหมือนคุณ Jennessa เลย

    ตอนเด็กและทั้งตอนนี้เวลาฝันชอบบังคับให้ตัวเองมีอภินิหาร

    บินได้บ้าง หายตัวได้บ้าง สนุกดีค่ะ แต่โตขึ้นก็ยังทำได้อยู่ ยังบ้าไม่หาย 555

  9. KRISS พูดว่า:

    ครับพี่ โทษที เพิ่งเข้ามาดู
    กำลังหาที่เขียน blog ใหม่ครับ
    เปิดเมื่อไหร่จะมาบอกอีกทีขรับ

  10. nunuy พูดว่า:

    หึหึหึหึ เป็นแบบนี้นี้เอง
    555555

  11. 9กระบี่ พูดว่า:

    ข้อหนึ่งนั้นมันพล๊อต
    หนังเรื่อง inception ชัดๆ
    อ่านแล้วขนลุกเลย ล้ำมากๆ