มิบังอาจเรียกตัวเองว่าคอกำลังภายใน แต่กระนั้นกระผมก็ได้อ่านนวนิยายกำลังภายในชั้นดีมาไม่น้อย อ่านมังกรหยกและเรื่องอื่นๆของกิมย้งตั้งแต่สมัยมัธยม (ติดหนักขนาดเอาไปอ่านหน้าห้องสอบ สอบเสร็จก็กลับมาอ่านต่อ) จนได้อ่านหนังสือของ อาจารย์สุวินัย หลายๆเล่ม (ในช่วงฝึกกังฟูงูๆปลาๆ) บวกกับชีวิตเริ่มเข้าสู่วิถีแห่งการ “ร่ำสุรา” เลยได้มารู้จักโกวเล้งและชีวิตพเนจร
บรรดาผู้คนในยุทธจักรก็เฉกเช่นผู้คนในสังคมอันแก่งแย่ง บางครั้งอ่านนิยายไป ตัวละครบางแบบก็ปรากฏในชีวิต บางที่เจอคนบางประเภท ก็หวนคิดถึงนวนิยายที่เพิ่งอ่าน ฯลฯ
จนล่าสุด ไม่ได้ติดตามนิยายกำลังภายในอันใด ไอ้จ๋งก็เอามังกรคู่สู้สิบทิศมาให้ และแนะนำว่า นี่เป็นนวนิยายกำลังภายในรุ่นใหม่ที่มีมิติละเอียดละออกว่าการสรรค์สร้างของกิมย้งและโกวเล้ง แม้ตัวตนของตัวละคร อาจไม่ลึกซึ้งเหมือนนิยายของกิมย้ง แม้คำรำพันในเรื่อง อาจไม่คมคายเหมือนนิยายของโกวเล้ง แต่ที่มาที่ไป ความสมจริงของท้องเรื่อง มิติของตัวละครในประวัติศาสตร์ ฉากต่อสู้และฉากสงครามอันอลังการ มันยิ่งใหญ่กว่านิยายกำลังภายในเรื่องใดๆที่เคยมีมา
จนได้มาอ่าน และก็เพิ่งจบไปในช่วงเวลาที่งานเยอะโคตร (ทำงาน 11 โมงถึงประมาณตี 1 อ่านนิยายช่วง ตี 1 ถึงตี 4 ตื่นมา 9 โมงเพื่ออ่านนิยายต่อถึง 11 โมง) อ่านแล้วติดขนาดไม่กล้าเอาหนังสือไว้ที่ออฟฟิศ ไม่งั้นมันพาลจะอ่านต่อไปเรื่อยๆ
มีตัวละครหลัก 2 ตัวเป็นเพื่อนรักกัน เริ่มชีวิตจากชนชั้นปลายแถว คนหนึ่งชื่อโค่วจง ซึ่งคิด “สร้างกิจการอันยิ่งใหญ่ รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น” และอีกคนชื่อฉีจื่อหลิง ซึ่ง “ชืดชา ไม่ช่วงชิง หวังเพียงเที่ยวท่องไปทั่วแผ่นดิน” แต่เหตุการณ์ของเรื่องอยู่ในกลียุคที่แผ่นดินแตกเป็นเสียงๆ แน่นอนว่า ย่อมไม่ง่ายดายสำหรับการมีชีวิตตามที่ตนปรารถนา
ไอ้จ๋งซึ่งมีชีวิตพเนจรมาโดยตลอด อ่านเรื่องนี้แล้วก็นึกชอบโค่วจง ผู้หวังสร้างกิจการอันยิ่งใหญ่
ไอ้เม่นซึ่งกำลังสร้างบริษัทเล็กๆประทังชีวิต อ่านเรื่องนี้แล้วก็นึกชอบฉีจื่อหลิง ผู้ไม่สนใจเรื่องราวและผู้คน หวังเพียงท่องไปในแผ่นดินอันกว้างใหญ่
เออหนอ ชีวิตอาจเป็นเพียงความฝันตื่นหนึ่ง ยังต้องสนใจผู้คนและชื่อเสียงจอมปลอมอันใด?
บันทึกบางถ้อยคำประทับใจไว้ ช่วงอารมณ์นี้ไม่ได้ติดใจในฉากสงครามอันเยี่ยมยอด, ฉากจารกรรมอันตื่นเต้น, หรือฉากการสร้างขุมกำลังใด แต่ประทับใจในความผิดหวัง ความพ่ายแพ้ ความรัก และการเดินทาง
เล่ม 3 หน้า 159
“ในโลก ไม่มีเรื่องราวที่สมบูรณ์พร้อม”
เล่ม 3 หน้า 233
“สำหรับกับข้าพเจ้า นี่เป็นความทรงจำอันวาบหวามงดงามฉากหนึ่ง”
เล่ม 6 หน้า 499
“สักวันหนึ่งท่านจะพบว่า ชีวิต เพียงเป็นความฝันตื่นหนึ่ง ไม่ว่าบัลลังก์ฮ่องเต้หรือกิจการยิ่งใหญ่ ล้วนไม่จริงแท้แน่นอน”
เล่ม 9 หน้า 17
“ความทุกข์ของสรรพชีวิต ล้วนเกิดจากมีรัก ทะเลรักไร้ฟากฝั่ง ทะเลทุกข์ก็ไร้ขอบเขต พี่จื่อหลิงเห็นด้วยหรือไม่?”
(ภาคสมบูรณ์) เล่ม 3 หน้า 124
“เมื่อฝังร่างกับพสุธา ถือว่าพบกับความสงบ ไม่มีผู้ใดรอดพ้นจากความตาย ขึ้นอยู่กับผู้ใดไปก่อนก้าวหนึ่ง หากว่าหลังจากตายแล้วยังมีอีกโลกหนึ่ง วันหน้าพวกเรามิใช่สามารถอยู่ร่วมกันหรอกหรือ เมื่อถึงเวลาอาจพบว่า บุญคุณความแค้นเมื่อตอนมีชีวิต เพียงเป็นเรื่องน่าขบขันนัก”
(ภาคสมบูรณ์) เล่ม 4 หน้า 318
“เฟยเซวียน ท่านนับเป็นความทรงจำที่สวยงามที่สุดในชีวิตของข้าพเจ้า หากปราศจากความทรงจำนี้ ชีวิตคงมีแต่ความขาวว่างเปล่า”
(ภาคสมบูรณ์) เล่ม 5 หน้า 23
“สิ้วฟางรู้จักควบคุมเครื่องดนตรี พวกท่านรู้จักบังคับอาวุธ แต่เกรงว่าพวกเราไม่มีวันควบคุมจิตใจตัวเองได้”
(ภาคสมบูรณ์) เล่มท้ายๆ
“นอกจากดาบแล้ว ไม่มีวัตถุเรื่องราวอื่นอีก”
(ภาคสมบูรณ์) เล่ม 10 หน้า 497
“นี่เป็นโลกที่เต็มไปด้วยคนบ้าคลั่งและเบาปัญญา หากไม่มีขีดความสามารถที่เพียงพอ ท่านจะถูกลิดรอนสิทธิในการดำรงชีวิต ระหว่างประเทศต่อประเทศเป็นเช่นนี้ ระหว่างผู้คนกับผู้คนก็เป็นเช่นนี้”
ฯลฯ
ภาพปกจาก สยามโนเวลล่า
สักวันคงได้อ่าน….แต่ตอนนี้ไม่อยากติดนวนิยายยาวขนาดนี้อ่ะ ‘
ดีนะเนี่ย ที่พี่เม่นอ่านจบแล้ว
ตอนอ่านนั้น ยังมีแค่เรื่องงานและมังกรคู่
ถ้ามาอ่านตอน มีคู่แล้วเนี่ย จะแบ่งเวลายาก ขนาดไหนน้าาาาาา
55555
บางครั้งการอ่านการ์ตูนก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใหญ่ชอบบอกว่า “ไร้สาระ” อย่างเดียวเนอะพี่เม่น 🙂
กลับได้ข้อคิด หรือคติสอนใจให้เรามาทบทวนตัวเองด้วย 🙂
อายจัง ผมอ่านแต่มังกรอหังการ์ หมาป่าคนองศึก
_”พี่เม่นฮับ ..
แอบมา post ในนี้ถามว่าพี่เม่นใช้ MSN หรือเปล่าคะ จะแอบขอ account สักหน่อย
พอดีว่าอยากจะรบกวนปรึกษาเรื่องงานนิดนึงค่ะ 🙂
หายไปไหนหนอ อิอิ (บล็อกอ่านไทยได้แล้วล่ะค่ะ)
อ่านเรื่องนี้มาตั้งกะออกใหม่ๆ จนตอนนี้กลับมาอ่านอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ยิ่งลึกซึ้ง
ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมทนยืนอ่านที่ร้านบีทูเอสเป็นวันๆได้โดยไม่กินข้าวกินปลาเลยล่ะ